วันพฤหัสบดีที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ป้องกันเงินหายได้อย่างไรเมื่อท่านต้องจ่ายยาสมุนไพร

หายๆแห่งประสบปัญหาจ่ายยาสมุนไพรไปตั้งเยอะ ทำไมมันถึงได้เงินจัดสรรมาน้อยจัง ทั้งๆที่ก็จ่ายยาสมุนไพรไปตั้งเยอะ  และสปสช.เอาข้อมูลมาจากใหนมาจัดสรร ดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้เงินในส่วนของการจ่ายยาสมุนไพรของเราหายไปโดยไร้ร่องรอย ให้มาดำเนินการดังนี้
1.กรณีที่มีแพทย์แผนไทย ที่มีใบประกอบวิชาชีพแพทย์แผนไทย ก็ให้ใส่เลขใบประกอบวิชาชีพแพทย์แผนไทยลงไป(คนส่วนน้อยของประเทศ)
2.กรณีที่ไม่มีแพทย์แผนไทย มีแต่เจ้าหน้าที่ทั่วไปเช่น พยาบาลวิชาชีพ(จะNP หรือRNก็แล้วแต่)
 นักวิชาการสาธารณสุข เจ้าพนักงานสาธารณสุข เจ้าพนักงานทันตสาธารณสุข รวมถึงผู้ช่วยแพทย์แผนไทย ซึ่งคนกลุ่มนี้คือคนส่วนใหญ่ในวงการสาธารณสุขและคนกลุ่มนี้ก็ไม่มีใบประกอบวิชาชีพแพทย์แผนไทย ให้เอาเลขบัตรประชาชน13หลักใส่แทนในช่องใบวิชาชีพแผนไทย
login เข้าJHCIS ไปด้วย adm แล้วไปที่ ระบบฐานข้อมูลโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ แล้วไปที่ผู้ใช้งานโปรแกรม(user)&แพทย์แผนไทย ที่ฟิลด์สุดท้ายเลขใบวิชาชีพแผนไทย ให้ใส่เลขที่บัตรประชาชน13หลักของเจ้าหน้าที่แต่ละคนเข้าไป เท่านี้ก็เรียบร้อยแล้วแถมวินิจฉัยโรคแพทย์แผนไทยได้ด้วย
คราวนี้ก็คำถามต่อไป  ใครหละที่จ่ายยาสมุนไพรได้ คำตอบคือใครก็จ่ายยาสมุนไพรได้ครับ จากการชี้แจงของสปสช.ในระยะแรกให้ใส่เลขที่บัตรประชาชนเข้าไปก่อน จากนั้นสปสช.เค๊าจะไปวิเคราะห์ดูว่ามียาสมุนไพรที่จ่ายโดยผู้มีใบประกอบวิชาชีพแพทย์แผนไทยกี่คน และจ่ายยาสมุนไพรโดยผู้ที่ไม่ใช่ผู้มีใบประกอบวิชาชีพแพทย์แผนไทยกี่คน
        ดังนั้นเราต้องติดตามสปสช.อย่างตาไม่กระพริบว่า หลังจากที่สปสช.ได้บอร์ดบริหารใหม่แล้ว แต่ละกองทุนกองทุนใหนบ้างมันจะเปลี่ยนไป
  

2 ความคิดเห็น:

  1. รพ.สต.ห้วยผึ้ง25 ธันวาคม 2554 เวลา 19:50

    ขอบพระคุณคะ

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ20 มกราคม 2555 เวลา 19:25

    สอบถามอาจารย์ครับ หลังจากที่เรากำหนด เลขที่บัตรประชาชน ที่ฟิลด์สุดท้ายเลขใบวิชาชีพแผนไทย สปสช จะเช็คจาก ฟิลด์ไหนของ 21 แฟ้มหรอครับ เพื่อเช็คว่าใครเป็นคนจ่ายยาสมุนไพร

    ตอบลบ