เนื่องจากขณะนี้มีหลายๆจังหวัดได้มีผู้ผ่านการอบรมเป็นผู้สั่งการนวด แล้วท่านผู้สั่งการนวดทั้งหลายก็เข้าใจผิดในการคีย์ข้อมูลการนวด โดยท่านผู้สั่งการนวดเข้าใจว่าตัวท่านสามารถคีย์ข้อมูลการนวดได้
1.ผู้สั่งการนวดมีหน้าที่สั่งการนวด ไม่ใช่ผู้นวด แต่ถ้าผู้สั่งการนวดผ่านอบรมหลักสูตรนวดมากรณีนี้ท่านอาจจะต้องแสดงตัวใน2บทบาทคือเป็นทั้งผู้สั่งการนวด และเป็นผู้นวดไปด้วย แบบนี้เวลาคีย์นวดในjhcis ท่านสามารถใช้ log in ของท่านได้ไม่ผิดกติกาและวันนึงนวดได้ไม่เกิน5คน
2.ในกรณีที่รพ.สต.ท่านมีแต่ผู้สั่งการนวด แต่ไม่มีคนนวดไม่ว่าจะเป็นนักการแพทย์แผนไทยหรือผู้ช่วยแพทย์แผนไทย กรณีนี้ถ้าท่านคีย์ข้อมูลการนวดเข้าไปในjhcis โดยที่ท่านไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับสปสช.ไว้ กรณีนี้ท่านน่าจะฟาวล์ครับ
3.การเปิดบริการนวดในแต่ละรพ.สต. ท่านต้องไปขอขึ้นทะเบียนกับสปสช.ตามเขตที่ท่านอยู่
4.การวินิจฉัยกรณีนวดหรือจ่ายยาสมุนไพร อันนี้คงแล้วแต่ละสปสช.ของแต่ละเขตว่าจะเอาอย่างไร เพราะบางเขตก็ไม่จำเป็นต้องมีรหัสuร่วมด้วย บางเขตก็ต้องมีรหัสu ด้วย
หวังว่าคงพอกระจ่างขึ้นสำหรับน้องๆที่ปรึกษามาช่วงเช้านะครับ
1.ผู้สั่งการนวดมีหน้าที่สั่งการนวด ไม่ใช่ผู้นวด แต่ถ้าผู้สั่งการนวดผ่านอบรมหลักสูตรนวดมากรณีนี้ท่านอาจจะต้องแสดงตัวใน2บทบาทคือเป็นทั้งผู้สั่งการนวด และเป็นผู้นวดไปด้วย แบบนี้เวลาคีย์นวดในjhcis ท่านสามารถใช้ log in ของท่านได้ไม่ผิดกติกาและวันนึงนวดได้ไม่เกิน5คน
2.ในกรณีที่รพ.สต.ท่านมีแต่ผู้สั่งการนวด แต่ไม่มีคนนวดไม่ว่าจะเป็นนักการแพทย์แผนไทยหรือผู้ช่วยแพทย์แผนไทย กรณีนี้ถ้าท่านคีย์ข้อมูลการนวดเข้าไปในjhcis โดยที่ท่านไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับสปสช.ไว้ กรณีนี้ท่านน่าจะฟาวล์ครับ
3.การเปิดบริการนวดในแต่ละรพ.สต. ท่านต้องไปขอขึ้นทะเบียนกับสปสช.ตามเขตที่ท่านอยู่
4.การวินิจฉัยกรณีนวดหรือจ่ายยาสมุนไพร อันนี้คงแล้วแต่ละสปสช.ของแต่ละเขตว่าจะเอาอย่างไร เพราะบางเขตก็ไม่จำเป็นต้องมีรหัสuร่วมด้วย บางเขตก็ต้องมีรหัสu ด้วย
หวังว่าคงพอกระจ่างขึ้นสำหรับน้องๆที่ปรึกษามาช่วงเช้านะครับ
อาจารย์คะ แสดงว่าถ้านวดเราต้อง log in เป็นพนักงานนวด ถ้าต้องมั้ยคะ
ตอบลบหรือต้อง log in ผู้สั่งการ แล้วไปเปลี่ยนผู้ให้บริการในการจ่ายยาเป็นผู้นวดคะ