จากการที่ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกับเพื่อนที่ทำงานที่สปสช.หลายๆเขต เพื่อนๆผมหลายๆคนได้เสนอมาว่าในกรณีที่เราจ่ายยาสมุนไพรให้กับผู้มารับบริการ เพื่อป้องกันการขาดตกบกพร่องของข้อมูลหลายท่านๆได้แนะนำว่าเมื่อเราวินิจฉัยโรคตามicd10ของWHOแล้ว ให้วินิจฉัยโรครหัสUตามไปด้วยเช่น
นาย ส.มารับบริการที่รพ.สต.แห่งหนึ่งด้วยอาการไข้สูง ไอ เจ็บคอ เป็นมาแล้ว 3 วัน จากการตรวจร่างกายพบว่าทอนซิลบวมแดงทั้ง 2 ข้าง และในcaseเราต้องการจ่ายยาสมุนไพรออกไปกรณีนี้ก็จะมี
ทอนซิลอักเสบ"J03.8" เป็นprinciple และมี
ทอนซิลอักเสบ "U65.31" เป็นco-morbidity
ผมก็เลยถามว่าทำไมต้องวินิจฉัยรหัสUร่วมด้วย ได้รับคำตอบแบบไม่มีคำตอบว่า ขณะนี้ยังไม่ชัดเจนเท่าไหร่ในเรื่องนี้จาก..... แต่ทำแบบนี้ไว้เผื่อกันพลาด เนื่องจากเงินของกองทุนแพทย์แผนไทยก็เยอะเหมือนกัน ดังนั้น ณ บัดนี้
"เมื่อคุณจ่ายยาสมุนไพรออกมา ขอให้มีวินิจฉัยร่วมรหัสUเสมอ"
นาย ส.มารับบริการที่รพ.สต.แห่งหนึ่งด้วยอาการไข้สูง ไอ เจ็บคอ เป็นมาแล้ว 3 วัน จากการตรวจร่างกายพบว่าทอนซิลบวมแดงทั้ง 2 ข้าง และในcaseเราต้องการจ่ายยาสมุนไพรออกไปกรณีนี้ก็จะมี
ทอนซิลอักเสบ"J03.8" เป็นprinciple และมี
ทอนซิลอักเสบ "U65.31" เป็นco-morbidity
ผมก็เลยถามว่าทำไมต้องวินิจฉัยรหัสUร่วมด้วย ได้รับคำตอบแบบไม่มีคำตอบว่า ขณะนี้ยังไม่ชัดเจนเท่าไหร่ในเรื่องนี้จาก..... แต่ทำแบบนี้ไว้เผื่อกันพลาด เนื่องจากเงินของกองทุนแพทย์แผนไทยก็เยอะเหมือนกัน ดังนั้น ณ บัดนี้
"เมื่อคุณจ่ายยาสมุนไพรออกมา ขอให้มีวินิจฉัยร่วมรหัสUเสมอ"
การ Diag จะไม่คูณสอง หรอครับอาจารย์ กลัวโดน Pending นะครับ
ตอบลบกรณีนี้เรา Login แพทย์แผนไทยหรือว่า login ปกติครับ (หมายถึงลง OPD นะครับ)